วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2551

สุดท้ายความพยายามก็สำเร็จ

ช่วงนี้อยู่ในช่วงลุ้นระทึกกับเกรด
ตอนนี้เกรดออกมาแล้ว 555 ภาษาอังกฤษ รอดตายแล้ว แอบนิสัยไม่ดี เอาไปเปรียบเทียบกับเพื่อน
พูดง่ายๆอิจฉาเพื่อนว่างั้นเถอะ แต่สุดท้ายก็ได้ เกรดเท่ากัน ได้ D+ ภูมิใจนะเนี้ย ดีกว่า F ที่อิจฉา
เนี้ย เพราะตอนเรียนก็เรียนด้วยกัน เทียบกันแร้ว เราก็ตั้งใจเรียนเหมือนเพื่อนนั่นล่ะ ทำไม เกรด midterm
ออกมาเพื่อนได้ดีกว่า แต่ก็นะ สุดท้ายก็รอดตาย
ส่วนอีกวิชา มรดกทางการแสดงและศิลปะ มีทั้งหมด 7 ข้อ สามชั่วโมง ออกมาเป็นคนแรก จิงๆไม่ได้ง่ายหรอก
แต่เขียนแบบวนไปวนมา ประมาณแค่ ครึ่งหน้า พอมานั่งคุยกัน คนอื่นเขียนกัน 3-4 หน้า เริ่มวิตกอีกว่าจะตก
มั๊ยเนี้ย เพราะคำถามประมาณว่า ความเป็นศิลปะไทย คืออะไร ความเป็นศิลปะอินเดีย,จีน คืออะไร ศิลปะการแสดงของอินเดียโบราณ
ตกทอดภูมิปัญญามาถึงในสมัยปัจจุบันมีอะไรบ้าง เห็นมะแต่ล่ะคำถาม คนอื่นก็นั่งวาดรูปเจดีย์แต่ละสมัย แล้วก็อธิบาย ทรงพุ่มข้าวบิณท์
ทรงย่อมุม อะนะ แต่นี้มีแต่ตัวหนังสือ แถมที่เล็งๆไว้ว่าจะตอบ เข้าไปนั่งพอจะลงมือเขียน ส่วนที่เป็นเนื้อๆลืม เขียนไปแต่น้ำ
จิงๆวิชาเนี้ยเป็นอะไรที่เหมือนจะง่ายนะตอนเรียน เปิดวิดีโอให้ดู เปิดดนตรีบรรเลงของจีนให้ฟังแล้วให้บรรยายความรู้สึก ว่า
เสียงเหมือนน้ำตกลงจากที่สูงกระแทกกับโขดหิน ให้ความรู้สึก...... อ่านะ ประมาณเนี้ย เวลาเรียนแต่ละคาบจดได้ประมาณ 3-4 บรรทัด
วิชาอื่นจดได้เป็นหน้า พอตอนสอบให้เขียนอธิบายให้เข้าใจ เห็นมะว่าตอนเรียนเหมือนจะง่าย พอสอบจะตายเอา
เทอมนี้ก็โล่งไปแร้ว รอเทอมหน้าไปนั่งเกร็ง นั่งลุ้น นั่งเครียดกันมั๊ย
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้แตะคอมเลย โดดองค์หญิงที่บ้านยึด เลยไม่เค่อยจะได้อ่าน บล็อค หรือไปเม้นท์ ขออภัยด้วยค่า

วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เคยกินเบตาดีนมั๊ย!

เมื่อวานไปขูดหินปูนมา เจ็บสุดๆ ผู้ช่วยถามว่า "เจ็บมั๊ย"
คุณหมอรีบตอบแทน "เลือดออกเยอะขนาดนี้ไม่เจ็บได้ไง"
ให้กำลังใจกันน่าดูฟังแล้วใจแป้ว พอเสร็จหมอก็ทาเบตาดีน ตรงเหงือก เพราะว่าเลือดออกเยอะมาก
คุณหมอ"เด๋วจะทายาหน่อยนะคะ รสชาติมันจะแปลกๆ ไม่ค่อยอร่อย"
ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าจะทาอะไรให้ พอเริ่มทารู้เลยว่าทาอะไร ตอนนั้นไม่เห็นหรอก เพราะมีผ้าปิดไว้อยู่
พอกินๆไปรสชาติก็บอกไม่ถูก ก็รสเหมือนเบตาดีนนั่นล่ะ ปะแล่มๆ เพิ่งจะรู้ว่าเบตาดีน กินได้มั้ง
หมอบอกว่า มีฟันคุด 2 ซี่ข้างบนกะล่างซ้าย รีบบอกหมอไปว่า "คุณหมอคนก่อนบอกว่าถ้าไม่เจ็บยังไม่ต้องถอน"
หมอก็เหมือนจะยินยอม โล่งใจไป แต่พอจะเดินออกจากห้อง "รอแปปนะคะ" เขียนใส่กระดาษใบนัดบอกว่าให้เอาให้ด้านหน้า
ก็นึกว่าเป็นใบบันทึกว่ามีฟันคุดที่ไหนได้ กลายเป็นนัดถอนฟันคุดซะงั้น
ไม่อยากจะถอนเลย จิงๆมันไม่เจ็บมันไม่ปวดก็ไม่ต้องถอนก็ได้ไม่ใช่เหรอ กะลังคิดอยู่ว่าถ้าไหนๆก็ต้องถอน จะดัดฟันไปด้วยเลยดีมั๊ย
คราวที่แล้วหมอบอกว่าถ้าจะดัดฟันต้องถอนฟันคุด เลยเปลี่ยนใจ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้เลย
เฮ้อออออ ไม่ถอนได้มั๊ย
+++ มีอีกข่าว เกรดภาษาจีนเพิ่งจะออก หลังจากวิตกจริตทุกครั้งที่มีการสอบ และมักจะบ่นเสมอว่า จะพยายามไปทำไมในเมื่อเกรดก็ได้เท่ากับคนที่ไม่พยายาม
แต่ตอนนนี้ค่อยดีใจหน่อย ได้ B+ มา ส่วนอีกวิชาได้ A ตอนนี้ก็รอลุ้นภาษาอังกฤษว่าจะมีชีวิตรอดมั๊ย ถ้าไม่ตกจะดีมั่กๆๆๆ
ปล.คนเราได้คืบจะเอาศอก ได้เกรด บีบวก ก็ยังอุตส่าห์คิดว่า ทำไมไม่ได้ เอ นะ (โลภเนอะ)

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ซวยจิงๆเรยย+กิจวัตรประจำวัน

อุตส่าห์สอบเสร็จสบายใจจะตาย แต่ทว่า วันอาทิตย์ มือถือหายยยยยยยยยยยย โหยยยย เกิดอะขึ้นเนี้ย เพิ่งใช้ได้ ไม่ถึง 6 เดือนเอง แล้วถ้าจำไม่ผิดเดือนนี้เมื่อปี
ที่แล้ว มือถือก็หาย เครื่องนั้นใช้ได้ 10 วัน ลืมวางทิ้งไว้ แต่คราวนี้ไปยืนชุลมุนรอรถเมล์อยู่อนุสาวรีย์ หายไปซะงั้น ในช่วงเวลาไม่น่าจะเกิน 15 นาที แล้วเครื่องนี้คุงมิรินก็ซื้อให้ซะด้วย มีมือถือสองเครื่องในกระเป๋า หายไปแต่เครื่องแพง เครื่องถูกๆไม่รู้จักล้วง ตอนนี้ขอพักก่อนไม่ใช้แระ 2 เบอร์ ใช้เครื่องล่ะ2000 กว่าบาทไปแระกัน สงสัยดวงจะสมพงษ์กับเครื่องมือสองซะมั้ง เพราะก่อนหน้านี้ เครื่องมือสอง ใช้ทนมือจิงๆ ยังไง ก็ไม่หาย เฮ้อออ จิตตก ก่อนจะนอน นึกทุกที "มันหายไปแล้วเหรอเนี้ย หายจิงๆเหยอ" เป็นเงี้ย สองวันแระ
มาอยู่ที่บ้านกรุงเทพกินตลอดเวลา อืดดด กินเมี่ยงก๋วยเตี๋ยว กินเสร็จเล่นไพ่ เล่นๆกันหิว ก็ยกขึ้นมากินใหม่ นู่น ยันตีสอง กิจวัตร ระหว่างเล่นก็เปิดซีรี่ย์เกาหลีดู