วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551

เพิ่งจะได้ว่าง

กว่าจะโล่งได้ สอบเสร็จไปเกือบหมดแล้ว เหลือตัวสุดท้ายสอบวันศุกร์ อยากเข้ามามากมาย แต่ก็ห้ามใจไว้ก่อนมิเช่นนั้นจะไม่ได้อ่านหนังสือ
เพื่อนโทรมาถามความเห็นว่า"ถ้ารู้ว่าแฟนคุยกะแฟนเก่าเรื่องของเรา จะบอกเลิกกะแฟนดีมั๊ย มันเหมือนไม่ไว้ใจกัน เรื่องของคนสองคนทำไมต้องให้คนอื่นมาบอก
ไม่ใช่ให้คนอื่นมาบอก" ฟังแล้วก็เหมือนปัญหาโลกแตกเนอะ จิงๆก็เข้าใจนะ แต่ถ้าจะมองอีกมุมก็เข้าใจอีกฝ่ายเหมือนกัน เพื่อนมันบอกว่าเคยบอกแฟนไปแล้วว่า มีอะไรให้พูดตรงๆ แต่ก็อย่างว่า ผู้ชายอะ กว่าจะง้างปากให้พูดแต่ละทีมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ก็ได้แต่ปลอบเพื่อนไปว่าอยู่ที่ว่าจะคิดมองในแง่ดีหรือแง่ร้าย บางทีอาจจะไม่ได้ว่าลืมไม่ได้หรอก เพียงแต่ว่า แฟนเก่า อย่างน้อยๆ ครั้งหนึ่งก็ได้เคยสนิท เคยรู้จักกัน อาจจะคิดว่าเข้าใจเราก็ได้ ใช่มั้ง! คิดว่าน่าจะมีบางล่ะ แต่พฤติกรรมก็น่าสงสัยตรงที่ว่า แอบโทรตอนมันหลับไปแล้ววววว สรุปว่า ถ้าเชื่อใจกัน ก็มองในแง่ดีเข้าไว้ จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจมาก

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

อะไรๆก็ไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้สักอย่าง

เซร็งซะทุกอย่าง อาทิตย์นี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ซะอย่าง
เฮ้อออ เหนื่อยแล้วนะ ต่อไปนี้ต้องไม่ตั้งใจ ใช่มะ ถึงจะได้อยากที่อยากได้
โหยยยยยยยยยยยยย เบื่อ

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

ยังจำปักเป้ากันได้มั๊ย!

ไม่รู้ว่าจะมีคนจำได้บ้างป่าว เพราะว่าไม่ได้เขียนถึงปักเป้านานแระ เพราะว่าไม่ได้คุยกันเลย แต่เมื่อวันอาทิตย์โทรไปถามปักเป้า เรื่องพาสปอร์ต ก็เลยได้คุยนิหน่อย ยังไม่ทันจะอ้าปากถามเลยยย ปักเป้าก็ดักคอว่า
"โทรมาทวงวันเกิดใช่มั๊ยเนี้ย" โหยยยย กัดกันซะแระ
" เหอะๆ ป่าว ไม่คิดว่าคุณจะจำได้อะ โทรมาเรื่องอื่น"
ปักเป้า ตอบมาด้วยเสียงเป็ดๆว่า "ฟังแล้วเหมือนด่าฉันยังไงก็ไม่รู้"
ตอบกลับไปด้วยเสียงวี๊ดวิ้วที่สุดในโลก "ป่าวค่า.... ที่รัก ใครจะกล้าว่า"
ความเงียบครอบงำ 3 วิ "อะเหรอ เออออ วันนั้นอะที่ส่งไปมาให้ ได้ดูแล้ว เก่งเหมือนกันเนี้ย บลา บลา"
นั่นแระ เม้าท์ไปสักพัก ก็บอกปักเป้าว่าจะได้ไปเที่ยวเนอะ เด๋วจะซื้อของมาฝาก
"ไม่ต้องหรอกกก"
"ได้ไง ก็จะทำให้ดูไง ไม่ได้ซื้ออะไรที่มันยากเย็นเลย ก็น้ำแข็งหลอดที่เคยฝากคุณซื้อทุกครั้ง แล้วก็ไม่เคยได้สักครั้ง"
" ได้ๆจะรอดูนะ ส่งมาให้ถึงล่ะ"
ก็นะ ปักเป้าไปเที่ยวทีไร ก็บอกว่าขอของฝากด้วย ไม่ได้แพงไปเลย แค่น้ำแข็งหลอด แต่ปักเป้าก็มิได้นำพา สักที

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

เพื่อนๆเซอร์ไพรส์วันเกิด(ขอนิดนุง)



ปล.ลงรูปแล้วมันมึนๆ จัดหน้าไม่ได้ รูปนี้ลงทีลงแต่มาโผล่อันแรก เอาเป็นว่า อ่านข้างล่างก่อนแล้วค่อยมาอ่านข้างบนเนอะ รูปนี้เค้กข้าพเจ้าเอง ที่เห็นปักเทียนแค่ 6 เล่ม เหตุเพราะว่า มีเทียนเหลืออยู่แค่นั้นล่ะ




มันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายหรอก แต่อยากจะเก็บไว้เป็นความรู้สึกดีๆ เพราะตั้งแต่เรียนไม่ว่าจะมัธยมหรือมหาลัยไม่เคยมีสักปี(เหมือนเป็นพวกเพื่อนไม่คบเนอะ)



เมื่อวานเลิกเรียนช้าไปอีกหนึ่งคาบ อารมณ์เริ่มเสีย เริ่มรีบอยากกลับ เพื่อนก็บอกตั้งแต่ต้นคาบว่าเลิกเรียนประชุมงาน เซร็งอีก หมดคาบเดินดุ่ยๆจะออกนอกห้อง เพื่อนมันเบรคไว้ แล้วเอาเค้กมาให้สองชิ้นแล้วร้องเพลงให้ อืมมมมม อายมั๊ยล่ะ คนยังอยู่เต็มห้องเรียน แต่ก็รู้สึกดีที่เพื่อนมันตั้งใจทำให้ ว่าจะถ่ายรูปล่ะ แต่รับ

โทร. หันกลับมามันกินกันหมดแล้ว ดีจิงๆ เหลือแต่ซาก

รูปนี้เป็นเค้กที่เป่าล่วงหน้าไปตั้งแต่วันอาทิตย์ ก้อนนี้ของน้อง จิงๆก้อนเดียวก็พอ แต่หาเรื่องซื้อสองก้อนเพราะอยากกินกันหลายคน เด๋วไม่พอ อร่อยมากๆ ยังหิ้วกลับมากินต่อที่หอ






วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

วันนี้ในที่สุดก็ บรรลุนิติภาวะแล้ว


ภูมิใจมั๊ยเนี้ย แต่เรื่องแรกเลยนะ ก็ดีใจๆ จะได้เที่ยวแล้วไม่ต้องกังวลเวลาตรวจบัตรไง เมื่อก่อน 18 เที่ยวได้ พอใกล้จะ 18 เปลี่ยนมา 20 มาปีนี้ในที่สุดก็ได้ซะที เหอะๆ จิงๆไม่ได้ไปไหนหรอก แค่พูดกะแม่ขำๆ เพราะเวลากลับบ้านแล้วแม่ชวนไปเที่ยว ไปมะได้ หน้าผ่านแต่อายุไม่ถึง กลับบ้านเมื่ออาทิตย์ก่อนก็เลย เป่าเค้กล่วงหน้า ก็รู้สึกแปลกๆดี ไม่ได้เป่ามาหลายปีแระ ย้อนรวมกะน้องและยาย เลยซื้อมา 2 ก้อน ที่ร้าน Boat เจ้าประจำ อร่อยสุดๆ กินเสร็จก็ยังงง เพียรพยายาม หอบกลับมากินต่อที่หอ เฮ้อออ อยากกินอีก 555 ก็มันอร่อยอะ